น้ำยาบ้วนปากจากกระเทียม สยบฟันผุ
Science News Categories
Publish date
09/12/2025
Image
น้ำยาบ้วนปากจากกระเทียม สยบฟันผุ

สมุนไพรในครัวอย่างกระเทียม (Allium sativum) อาจกลายเป็นผู้ท้าชิงรายใหม่ในวงการทันตกรรม เมื่อสารสกัดจากธรรมชาติชนิดนี้มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ยอดเยี่ยมจนน่าจับตามอง

 

งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยชาร์จาห์ (University of Sharjah) ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Herbal Medicine เมื่อเดือนธันวาคม 2568 เปิดเผยการค้นพบที่น่าทึ่งว่า น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกระเทียม มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคในช่องปากได้ดีเทียบเท่ากับคลอเฮกซิดีน (Chlorhexidine) ซึ่งเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน Chlorhexidine เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ว่าเป็นมาตรฐานสูงสุดในการฆ่าเชื้อในช่องปาก แต่การใช้ต่อเนื่องยาวนานอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คราบสีติดฟัน หรือการรับรสที่เปลี่ยนไป ทีมวิจัยจึงมองหาทางเลือกจากธรรมชาติ และพบว่ากระเทียมซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านจุลชีพตามธรรมชาติ อาจเป็นคำตอบ


เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและปราศจากอคติ ทีมวิจัยได้ดำเนินการตามมาตรฐาน PRISMA 2020 (Preferred Reporting Items for Systematic Reviews and Meta-Analyses 2020) โดยเริ่มจากการรวบรวมข้อมูลงานวิจัยกว่า 389 ชิ้น จาก 6 ฐานข้อมูลชั้นนำ จากนั้นทีมงานใช้กรอบแนวคิด PICO Framework ในการคัดเลือกงานวิจัยที่มีคุณภาพสูงสุด จนเหลือเพียง 5 งานวิจัยคลินิกที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือก ซึ่งเป็นการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม เพื่อนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างสารสกัดกระเทียม และ Chlorhexidine 


ความลับของกระเทียมอยู่ที่สารออกฤทธิ์สำคัญชื่อว่าอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารประกอบซัลเฟอร์ที่มีฤทธิ์ต้านจุลชีพ (Antimicrobial) ตามธรรมชาติ กลไกของมันสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียตัวร้ายอย่าง Streptococcus mutans ซึ่งเป็นต้นเหตุฟันผุ และ Porphyromonas gingivalis ต้นเหตุโรคเหงือก ได้อย่างมีนัยสำคัญ จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบข้อสรุปที่น่าสนใจแบ่งเป็น 2 ด้าน ดังนี้
1. ด้านประสิทธิภาพ น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดกระเทียมที่มีความเข้มข้นสูง มีความสามารถในการลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ทัดเทียมกับ Chlorhexidine ในบางการศึกษาพบว่าสารสกัดกระเทียมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในการยับยั้งเชื้อบางกลุ่ม และข้อดีที่เหนือกว่าคือกระเทียมเป็นสารธรรมชาติ จึงไม่มีความเสี่ยงเรื่องการดื้อยา หรือผลข้างเคียงระยะยาวเหมือนสารเคมี
2. ด้านผลข้างเคียง แม้น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดกระเทียมจะฆ่าเชื้อได้ดี แต่แลกมาด้วยความรู้สึกไม่สบายในช่องปากที่มากกว่าอย่างชัดเจน ผู้ทดสอบรายงานถึงอาการแสบร้อน และกลิ่น/รสชาติที่ไม่พึงประสงค์ ในขณะที่ Chlorhexidine แม้จะไม่แสบเท่า แต่มักก่อให้เกิดคราบสีน้ำตาลบนฟันและการรับรู้รสชาติเปลี่ยนไปเมื่อใช้ต่อเนื่อง


งานวิจัยนี้ยืนยันในเชิงวิทยาศาสตร์ว่าสารสกัดกระเทียมมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นสารทดแทน Chlorhexidine ในแง่ของการฆ่าเชื้อ แต่ความท้าทายต่อไปของนักวิทยาศาสตร์คือการพัฒนาสูตรเพื่อลดความระคายเคืองและปรับปรุงรสชาติ เพื่อให้อาวุธจากธรรมชาติชิ้นนี้ สามารถนำมาใช้จริงได้ในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องทนแสบหรือกลายเป็นเพิ่มกลิ่นกระเทียมในปากแทน

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
PICO Framework คือ เครื่องมือมาตรฐานที่นิยมใช้ในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข เพื่อช่วยเปลี่ยนข้อสงสัยกว้างๆ ให้กลายเป็นคำถามวิจัยที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถสืบค้นข้อมูลหรือออกแบบการทดลองได้อย่างแม่นยำและไม่หลงทาง โครงสร้างของ PICO ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ ดังนี้
1. P - Population คือ กลุ่มเป้าหมายที่เรากำลังสนใจ
2. I - Intervention คือ สิ่งที่ต้องการศึกษาที่เราอยากรู้ผลลัพธ์
3. C - Comparison คือ ตัวเปรียบเทียบ มีการดําเนินการอื่น (ตัวแปร, การรักษา) อีกหรือไม่ที่เราจะนํามาเปรียบเทียบกับการศึกษาทดลองที่เรากําลังพิจารณาอยู่ (ส่วนนี้สำคัญมาก เพื่อให้รู้ว่าสิ่งใหม่ดีกว่าสิ่งเก่าหรือไม่)
4. O – Outcome คือ ผลลัพธ์ ที่เราต้องการวัดหรือคาดหวังว่าจะเกิดขึ้น

 


 
แผนภาพแสดงให้เห็นสารประกอบสำคัญในกระเทียม (เช่น อัลลิซิน) มีฤทธิ์ต้านจุลชีพและต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลาย สามารถนำมาพัฒนาเป็นน้ำยาบ้วนปากเพื่อป้องกันและรักษาโรคในช่องปากต่างๆ เช่น โรคเหงือกและฟันผุ

ที่มาของภาพ Sasi M, Kumar S, Kumar M, Thapa S, Prajapati U, Tak Y, Changan S, Saurabh V, Kumari S, Kumar A, et al. Garlic (Allium sativum L.) Bioactives and Its Role in Alleviating Oral Pathologies. Antioxidants. 2021; 10(11):1847.

 

อ้างอิง
Youmna Ahmed Abdelaal, Heba Talal Saeed, Malak Ahmad Elayyan, Sara Mahmoud Bkairat, Saif Youssef Dib. The Clinical Antimicrobial Efficacy of Garlic Extract (Allium sativum) Compared to Chlorhexidine Mouthwash: A Systematic Review. Journal of Herbal Medicine, 2025; 54: 101053 DOI: 10.1016/j.hermed.2025.101053
University of Sharjah. "Garlic mouthwash shows shockingly strong germ-fighting power." ScienceDaily. ScienceDaily, 8 December 2025.
Sasi, Minnu, Sandeep Kumar, Manoj Kumar, Sandhya Thapa, Uma Prajapati, Yamini Tak, Sushil Changan, Vivek Saurabh, Shweta Kumari, Ashok Kumar, and et al. 2021. "Garlic (Allium sativum L.) Bioactives and Its Role in Alleviating Oral Pathologies" Antioxidants 10, no. 11: 1847.

 

Created by
เรียบเรียงโดย นายศักดิ์ชัย จวนงาม กองสื่อสารวิทยาศาสตร์ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ