วัวแม่ลูกอ่อน แสดงอาการผิดปกติไล่ขวิดและพุ่งชนเจ้าของ พบเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ในพื้นที่ ตำบล ดอนทราย อำเภอ ปากพะยูน จังหวัด พัทลุง วัวแม่ลูกอ่อนอายุ 7 ปี มีอาการดุร้าย ไล่ขวิดและพุ่งชนเจ้าของเมื่อเข้าใกล้ จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้ามาเก็บตัวอย่างส่งตรวจและตรวจพบโรคพิษสุนัขบ้าในวัว ทำให้สมาชิกในครอบครัวของบ้าน 3 คนเป็นผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้อจากวัว
โดยในรัศมี 5 กิโลเมตรกอนหน้านี้ มีการพบโรคพิษสุนัขบ้าอย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงเดือน มกราคม และ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในพื้นที่เขตจังหวัดสงขลา โดยข้อสังเกตสำหรับวัวที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า มีอาการน้ำลายฟูมปาก แตกฟอง และไหลย้อยมากกว่าปกติ ใกล้เคียงกับโรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) แต่ในกรณีที่สัตว์เป็นโรค FMD จะพบแผลเปื่อยหรือตุ่มใสที่ริมฝีปาก ช่องปาก เหงือก จมูก เพดาน ลิ้น กีบ อาการอาจรุนแรงจนถึงขั้นกีบหลุดได้ แต่จะไม่พบอาการดังกล่าวในสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า นอกจากนี้โรคปากและเท้าเปื่อยเกิดขึ้นเฉพาะในสัตว์กีบคู่เท่านั้น เช่น วัว หมู แพะ แกะ แต่โรคพิษสุนัขบ้าสามารถติดต่อกันได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด โดยอันตรายของโรคพิษสุนัขบ้าคือ หากแสดงอาการแล้วไม่มีทางรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยมีอัตราการเสียชีวิต 100% เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ และระมัดระวังการสัมผัสกับสัตว์ที่มีความเสี่ยงพาหะโรคพิษสุนัขบ้า
แหล่งที่มาของข่าว
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ตอนบน
ค้นคว้าเพิ่มเติม https://www.facebook.com/vrdsp