รัฐบาลไทยประกาศการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียม โซเดียม แร่ธาตุหลักในการผลิตแบตเตอรี่รถ EV ที่แม้จะไม่มากเป็นอันดับ 3 ของโลกตามที่ให้ข่าวไปก่อนหน้า แต่ไทยยังมีหวังเป็นฐานสำคัญรองรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ EV ในอนาคต
ตามที่เว็บไซต์ Thaigov ได้เผยแพร่ข่าว เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ถึงการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียม แหล่งใหญ่ในประเทศไทยกว่า 14 ล้านตัน รวมถึงแหล่งแร่โซเดียม ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นแหล่งแร่ลิเทียมมากเป็นลำดับ 3 ของโลกรองจากโบลิเวีย อาร์เจนตินา และอาจทำให้ประเทศไทยกลายเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียนแซงหน้าประเทศอินเดียนั้น ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมเนื่องจากข้อมูลยังมีความคลาดเคลื่อน นั่นคือ ปริมาณแร่กว่า 14 ล้านตันนั้น เป็นปริมาณของทรัพยากรแร่ดิบหรือ Mineral Resource ซึ่งไม่ได้เป็นแร่ลิเทียมทั้งหมด แต่หากประมาณการเป็น Lithium Resource ที่คิดเทียบเท่ากับปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตแล้ว จะอยู่ที่กว่า 160,000 ตัน ทำให้จริง ๆ แล้ว ไทยไม่ได้มีแหล่งแร่ลิเทียมมากเป็นอันดับ 3 ของโลกตามข่าวที่เสนอไปช่วงแรก แต่ก็ยังนับว่ามีปริมาณแร่สูง
แหล่งแร่ลิเทียมที่ได้รับการค้นพบนี้ มี 2 แหล่งคือ แหล่งเรืองเกียรติที่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา และแหล่งบางอีตุ้ม (อยู่ระหว่างการสำรวจ) ส่วนแหล่งแร่โซเดียมพบในพื้นที่ภาคอีสาน โดยแร่ทั้งสองชนิดเป็นแร่หลักที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ EV ที่กำลังเป็นความหวังของมนุษยชาติเรื่องความยั่งยืนทางพลังงาน ลดมลภาวะทางอากาศ และถือเป็นพลังงานทางเลือกในยุคที่น้ำมันมีราคาแพง
แต่แบตเตอรี่รถยนต์ EV ยังมีปัญหาที่รอการแก้ไขท่ามกลางการเติบโตของรถยนต์ EV ซึ่งคาดว่าในปี 2030 จะมีปริมาณถึง 145 ล้านคัน เพราะยังไม่อาจหาวิธีรีไซเคิลเพื่อนำแร่ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของแบตเตอรี่กลับมาใช้ใหม่ได้ โดยเฉพาะแร่ลิเทียมที่เป็นแร่หลักของการผลิต การขุดแร่นี้มาใช้จึงเป็นทางออกเดียว ณ ขณะนี้ ซึ่งการค้นพบแหล่งแร่ชนิดนี้ในประเทศไทย จึงอาจปูทางให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและฐานการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ EV ได้ในอนาคต
ที่มาของแหล่งข้อมูล https://www.prachachat.net/economy/news-1484593 https://www.matichon.co.th/economy/news_4380903 https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/77621