ยาหยอดตาสูตรพิเศษอาจเป็นทางเลือกใหม่แทนแว่นตาอ่านหนังสือ
Science News Categories
Publish date
16/09/2025
Image
ยาหยอดตา

นักวิจัยพบว่า ยาหยอดตาชนิดพิเศษสามารถช่วยปรับปรุงการมองเห็นในระยะใกล้สำหรับผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามวัย (presbyopia) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วันที่ 14 ก.ย. 2568 ดร. Giovanna Benozzi จากศูนย์วิจัยขั้นสูงสำหรับภาวะสายตายาวตามวัย ประเทศอาร์เจนตินา นำเสนอผลการทดสอบยาหยอดตาที่บิดาผู้ล่วงลับไปแล้วของเธอ (Dr Jorge Benozzi) พัฒนาขึ้นมา ในการประชุมครั้งที่ 43 ของสมาคมจักษุแพทย์ต้อกระจกและจักษุแพทย์แก้ไขสายตาแห่งยุโรป (European Society of Cataract and Refractive Surgeons : ESCRS) ที่จัดขึ้นในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งอาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประสบปัญหาภาวะสายตายาวตามวัย ที่ตาไม่สามารถโฟกัสวัตถุในระยะใกล้และตัวอักษรเล็ก ๆ ได้ตามอายุที่เพิ่มขึ้น การศึกษาจากข้อมูลย้อนหลังพบว่า ยาหยอดตาดังกล่าวช่วยให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถอ่านตัวอักษรบนแผนภูมิสายตาที่ใช้วัดระดับการมองเห็นระยะใกล้ (Jaeger chart) ได้เพิ่มขึ้น 2-3 บรรทัดหรือมากกว่านั้น โดยผลการปรับปรุงนี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี 

 

ยาหยอดตาสูตรนี้มีส่วนผสมหลักสองชนิด คือ Pilocarpine (พิโลคาร์พีน) และ Diclofenac (ไดโคลฟีแนค) โดย Pilocarpine เป็นยาที่ทำให้รูม่านตาหดตัวและทำให้กล้ามเนื้อ ciliary ซึ่งควบคุมการปรับเลนส์ตาเพื่อโฟกัสวัตถุในระยะต่าง ๆ หดตัว การหดตัวของรูม่านตาช่วยเพิ่มความชัดลึกในการมองเห็น (depth of field) ซึ่งทำให้ผู้ป่วยสามารถมองเห็นวัตถุในระยะใกล้ได้ชัดเจนขึ้น ส่วน Diclofenac เป็นยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal anti-inflammatory drugs: NSAID) ช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองมักเกิดจาก pilocarpine 

 

ผู้ป่วยที่มีภาวะสายตายาวตามวัยที่เข้าร่วมการศึกษาจำนวน 766 คน อายุเฉลี่ย 55 ปี ได้รับยาหยอดตาวันละสองครั้ง โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ตามความเข้มข้นของ Pilocarpine ที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1% 2% และ 3% ในขณะที่ Diclofenac มีปริมาณคงที่ในทุกสูตร 

 

การศึกษาพบว่า ยาหยอดตาสามารถปรับปรุงการมองเห็นในระยะใกล้ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทุกความเข้มข้นที่ทดสอบ โดยเฉลี่ยแล้วผู้ป่วยมีการมองเห็นดีขึ้น 3.45 บรรทัดบนแผนภูมิสายตา Jaeger หลังจากหยอดยาไป 1 ชั่วโมง 

กลุ่ม Pilocarpine เข้มข้น 1%: ผู้ป่วย 99% จากทั้งหมด 148 คน สามารถอ่านตัวอักษรได้เพิ่มขึ้น 2 บรรทัดหรือมากกว่านั้น 
กลุ่ม Pilocarpine เข้มข้น 2%: ผู้ป่วย 69% จากทั้งหมด 248 คน สามารถอ่านตัวอักษรได้เพิ่มขึ้น 3 บรรทัดหรือมากกว่านั้น 
กลุ่ม Pilocarpine เข้มข้น 3%: ผู้ป่วย 84% จากทั้งหมด 370 คน สามารถอ่านตัวอักษรได้เพิ่มขึ้น 3 บรรทัดหรือมากกว่านั้น 

 

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณยาและการตอบสนอง (dose-response effect) ที่ชัดเจน และผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนี้ยังคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยมีระยะเวลาเฉลี่ย 434 วัน นอกจากนี้ ยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดและไม่เป็นอันตราย คือ ภาวะมองเห็นภาพมัวชั่วคราว (32%), อาการระคายเคืองขณะหยอด (3.7%) และอาการปวดศีรษะ (3.8%) และไม่มีผู้ป่วยรายใดต้องหยุดการรักษา 

 

แม้ว่าผลลัพธ์จะดูน่าพอใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะว่ายังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เนื่องจากการศึกษานี้เป็นการศึกษาข้อมูลย้อนหลังจากศูนย์วิจัยเดียว ซึ่งอาจไม่สามารถนำไปใช้กับประชากรทั่วไปได้ทั้งหมด ศาสตราจารย์ Burkhard Dick ประธาน ESCRS กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการศึกษาที่ครอบคลุมมากขึ้นในระยะยาวและจากหลายศูนย์ฯ เพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพก่อนที่จะมีการแนะนำการรักษาดังกล่าวในวงกว้าง 

 

อย่างไรก็ตาม ดร. Benozzi ยืนยันว่า ยาหยอดตานี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนการผ่าตัด แต่อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่มองหาทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกในการสวมแว่นตา
 

อ้างอิง

https://www.theguardian.com/society/2025/sep/14/eye-drops-could-replace-glasses-surgery-longsighted-study
https://www.eurekalert.org/news-releases/1097649
Dose-Dependent Efficacy And Safety Of Pilocarpine-Diclofenac Eye Drops For Presbyopia: A Real-World Single-Center Study
 

Created by
เรียบเรียงโดย แก้วนภา ชวาร์ซ กองสื่อสารวิทยาศาสตร์ ​องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ