กรมอุตุฯคาดการณ์อากาศร้อนรุนแรงโดยในวันที่ 5-6 มีนาคม จะมีดัชนีความร้อนแตะ 51.4 องศาเซลเซียส เตือนหลายจังหวัดตกอยู่ในภาวะอากาศร้อนจัดผสมกับโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์อากาศร้อนในพื้นที่ประเทศไทยจากวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 6 มีนาคม โดยคาดการณ์ดัชนีความร้อนสูงสุดสูงถึง 51.4 องศาสเซลเซียส ในจังหวัดชลบุรี โดยความร้อนระดับดังกล่าวอยู่ในระดับอันตราย และแนะให้ทุกส่วนร่วมกันเฝ้าระวังภัยร้อนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เฝ้าระวังสภาพความแปรปรวนของอากาศที่จะส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นได้ในหลายพื้นที่

จากการพยากรณ์อากาศช่วง 5-11 มีนาคม โดยกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าในช่วง 5-7 มีนาคม ประเทศไทยอากาศจะร้อนจัดเนื่องจากความกดอากาศต่ำปกคลุมทางตอนบนของประเทศทำให้ภาคเหนือมีอากาศร้อนจัดพร้อมอาจมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยในภาพรวมอากาศจะร้อนทั้งประเทศ ซึ่งมีการคาดการณ์ออกมาว่าในช่วงวันที่ 4-6 มีนาคม โดยเฉพาะวันที่ 5 และ 6 มีนาคมนี้ ดัชนีความร้อนจะสูงเข้าขั้นอันตรายที่ 51.4 องศาฯ ในขณะเดียวกันลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ก็พัดขึ้นมาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ได้ และหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-11 มีนาคม จะมีมวลอากาศเย็น หรือความกดอากาศสูงแผ่ลงมาจากทางประเทศจีน ปกคลุมภาคอีสาน ซึ่งเมื่อสภาพความแตกต่างกันของอุณหภูมิจากทั้งสองฝั่งมาปะทะกันก็อาจส่งผลให้ในบริเวณดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ไปจนถึงเกิดลูกเห็บได้ในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตามกรมอุตุฯได้เตือนให้เฝ้าระวังสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วง 5-7 มีนาคมนี้เอาไว้ให้ดีเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีดัชนีความร้อนพุ่งสูงขึ้นถึง 51.4 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับอันตราย

ดัชนีความร้อนที่กรมอุตุฯมักใช้ในการเตือนภัยร้อนนั้นอธิบายให้เข้าใจง่ายคือค่าอุณหภูมิที่เป็นเหมือนตัวแทนอุณหภูมิที่เรารู้สึกได้ในสภาพอากาศขณะนั้น โดยมีการนำเอาสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อความรู้สึกของเราเข้ามาพิจารณาด้วยนั่นคือความร้อนและความชื้น บางครั้งในอุณหภูมิที่เท่ากันแต่ต่างพื้นที่กันเราอาจรู้สึกว่าร้อนกว่าอีกพื้นที่หนึ่งได้เนื่องมาจากอาจจะมีความชื้นที่สูงกว่าอีกที่หนึ่งนั่นเอง โดยทั่วไปแล้วค่าดัชนีความร้อนมักจะสูงกว่าค่าอุณหภูมิความร้อนที่วัดได้ในขณะนั้นๆเสมอ

ที่มาของภาพ : https://www.tmd.go.th/media/forecast/heatindex/heatindexinfo_04032567.png

ที่มาของข่าว :

1. https://www.prachachat.net/general/news-1515178

2. https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_8125659

3. https://www.tmd.go.th/

ผู้เรียบเรียง : ชนินทร์ สุริยกุล ณ อยุธยา  นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ศูนย์พัฒนาความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์แห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ