
การศึกษาทั่วโลกพบว่า วัคซีนโควิด-19 ช่วยชีวิตคนทั่วโลกได้ 2.5 ล้านคน ระหว่างปี 2563 ถึง 2567 ป้องกันการเสียชีวิตได้หนึ่งรายต่อทุก ๆ 5,400 โดส
ข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Jama Health Forum เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 โดย Stefania Boccia ศาสตราจารย์ด้านสุขอนามัย เวชศาสตร์ป้องกัน และสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัย Università Cattolica ประเทศอิตาลี และ ดร. Angelo Maria Pezzullo นักวิจัยด้านสุขอนามัยและเวชศาสตร์ป้องกัน จาก Meta-Research and Innovation Center at Stanford
ศาสตราจารย์ Boccia และ ดร. Pezzullo อธิบายว่า “ก่อนหน้านี้มีการศึกษาหลายชิ้นที่พยายามประเมินอัตราผู้รอดชีวิตจากวัคซีน โดยใช้แบบจำลองที่แตกต่างกัน แต่การศึกษาในครั้งนี้ครอบคลุมมากที่สุด เพราะอ้างอิงข้อมูลจากทั่วโลก ครอบคลุมถึงช่วงการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน และยังคำนวณปีของผู้ที่ได้รับวัคซีนอีกด้วย”
นอกจากนี้ การวิจัยยังคำนวณได้ว่าในช่วงปี 2563 ถึง 2567 วัคซีนได้ช่วยป้องกันการเสียชีวิตไปได้ถึง 2.533 ล้านคนทั่วโลก หรือคิดเป็นหนึ่งชีวิตที่รอดจากการฉีดวัคซีนทุก ๆ 5,400 โดส ช่วยยืดอายุขัยของผู้คนไปได้รวมกันถึง 14.8 ล้านปี โดยพบว่ากลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากวัคซีนมากที่สุด
ผลการศึกษาชิ้นนี้ยืนยันถึงความสำคัญและประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระดับโลก ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยชีวิตคนจำนวนมาก แต่ยังช่วยเพิ่มปีชีวิตที่มีคุณภาพให้กับผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงอายุที่เปราะบางที่สุด ซึ่งตอกย้ำว่าวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมทางการแพทย์มีบทบาทสำคัญในการปกป้องชีวิตและเสริมสร้างความมั่นคงทางสุขภาพให้กับประชากรโลก และควรได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขในอนาคต
ที่มาของภาพ canva
อ้างอิง
https://www.sciencedaily.com/releases/2025/07/250726234429.htm
https://jamanetwork.com/journals/jama-health-forum/fullarticle/2836434