ผลวิเคราะห์เผย Bennu ดาวเคราะห์น้อยผู้ขนส่งสารแห่งชีวิต
Publish date
04/12/2025
Image
1

นักวิทยาศาสตร์พบองค์ประกอบพื้นฐานที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ได้แก่ น้ำตาล ฟอสเฟต และสารอินทรีย์ลึกลับที่มีลักษณะคล้ายพลาสติก ซึ่งบ่งชี้ว่าดาวเคราะห์น้อยเบนนูอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งมหาสมุทรในอดีตกาล

 

ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1999 โครงการ Lincoln Near-Earth Asteroid Research (LINEAR) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศสหรัฐฯ, NASA และห้องปฏิบัติการลินคอล์นแห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ได้ตรวจพบวัตถุวัตถุหนึ่งที่เคลื่อนที่ผ่านเข้ามาในเรดาร์ตรวจจับ วัตถุดังกล่าวได้รับการกำหนดรหัสชั่วคราวว่า 1999 RQ36

 

ที่มาของภาพ https://assets.science.nasa.gov/content/dam/science/psd/solar/2023/09/a…

 

1999 RQ36 ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก (Near-Earth Asteroid) และยังเป็นวัตถุที่มีโอกาสเป็นอันตรายต่อโลก (Potentially Hazardous Object) เนื่องจากวงโคจรของมันตัดผ่านวงโคจรของโลกและมีความเสี่ยงที่จะพุ่งชนโลกในอนาคตอันไกลโพ้น

 

ในปี ค.ศ. 2012 เมื่อภารกิจ OSIRIS-REx ได้รับการอนุมัติ ทางโครงการจึงต้องการชื่อที่จดจำง่ายและมีความหมายสอดคล้องกับภารกิจ จึงเกิดโครงการประกวดตั้งชื่อ "Name That Asteroid!" ขึ้น โดยชื่อที่ชนะเลิศมาจากจินตนาการของเด็กชายวัย 9 ขวบ นามว่า ไมเคิล ปูซิโอ (Michael Puzio) จากรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ไมเคิลสังเกตเห็นว่าแขนกลเก็บตัวอย่าง (TAGSAM) ของยาน OSIRIS-REx ที่กางออกมานั้น มีลักษณะคล้ายกับคอและปีกของนกกระสา ซึ่งทำให้นึกถึง "เบนนู" (Bennu) เทพเจ้านกในตำนานอียิปต์โบราณ

 

เทพเบนนู (Bennu) เป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดใหม่ (Rebirth) การสร้างสรรค์ (Creation) และมีความเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์ เชื่อกันว่าเทพเบนนูถือกำเนิดขึ้นจากหัวใจของเทพโอซิริส (Osiris)  ความหมายนี้สอดคล้องอย่างลึกซึ้งกับภารกิจ OSIRIS-REx ที่มุ่งหน้าไปเก็บตัวอย่าง "ต้นกำเนิด" ของระบบสุริยะ

 

ที่มาของภาพ https://science.nasa.gov/wp-content/uploads/2023/05/osiris-rex-touchdown-on-bennu.gif Credit: NASA/Goddard/University of Arizona

 

3 ธันวาคม ค.ศ. 2018 ยาน OSIRIS-REx เดินทางมาถึงเบนนูอย่างเป็นทางการ และในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2020 คือวันแห่งประวัติศาสตร์ ยาน OSIRIS-REx เริ่มลดระดับลงสู่พื้นผิวเบนนูอย่างช้า ๆ แขนกลเก็บตัวอย่าง (TAGSAM) ถูกยืดออก ปฏิบัติการนี้เรียกว่า Touch-And-Go (TAG) คือการแตะแล้วไป โดยยานจะไม่ลงจอด แต่จะใช้ส่วนหัวของแขนกลแตะพื้นผิวเพียงไม่กี่วินาที

วันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ยานติดเครื่องยนต์หลักเพื่อมุ่งหน้ากลับโลก และในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2023 แคปซูลเก็บตัวอย่างได้ถูกปลดออกจากยานแม่ และพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็ว 27,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อนจะกางร่มชูชีพและร่อนลงจอดอย่างนุ่มนวล ณ ทะเลทรายในรัฐยูทาห์

 

ล่าสุดเมื่อนักวิทยาศาสตร์เปิดแคปซูลและเริ่มวิเคราะห์เศษหินสีดำสนิทจากเบนนู สิ่งที่พวกเขาพบไม่ใช่แค่หินธรรมดา ข้อมูลถูกเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Nature Geoscience, Nature Astronomy และ Meteoritics & Planetary Science เผยการค้นพบที่สร้างความประหลาดใจ

 

การพบ แมกนีเซียม-โซเดียม ฟอสเฟต (Magnesium-Sodium Phosphate) ในรูปแบบที่ละลายน้ำได้ และมีความบริสุทธิ์สูง แร่ธาตุชนิดนี้มักพบในสภาพแวดล้อมที่มีการระเหยของน้ำเค็ม เช่น ทะเลสาบโซดา (Soda lakes) หรือในปล่องน้ำพุร้อนใต้ทะเลลึก การพบสารนี้ในเบนนูบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ดาวเคราะห์น้อยแม่ (Parent Body) ที่เบนนูแตกตัวออกมานั้น ไม่ใช่ก้อนหินแห้งแล้ง หากแต่เคยเป็น "โลกที่มีมหาสมุทร" (Ocean World)

 

การพบโมเลกุลน้ำตาลที่สำคัญต่อกระบวนการทางชีวภาพ 
น้ำตาลไรโบส (Ribose): น้ำตาล 5 คาร์บอน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ RNA (Ribonucleic Acid) การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะมันสนับสนุนสมมติฐาน "โลกของ RNA" (RNA World Hypothesis) ที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตในยุคแรกเริ่มใช้ RNA เป็นตัวเก็บรหัสพันธุกรรมและเร่งปฏิกิริยาเคมี ก่อนที่ DNA และโปรตีนจะวิวัฒนาการขึ้นมา
น้ำตาลกลูโคส (Glucose): น้ำตาล 6 คาร์บอน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของสิ่งมีชีวิตบนโลก แสดงให้เห็นว่ากระบวนการสังเคราะห์พลังงานอาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติในอวกาศ

 

และการค้นพบวัสดุอินทรีย์ชนิดใหม่ที่ไม่เคยพบในอุกกาบาตใดๆ มาก่อน ลักษณะของมันคล้ายกับ "หมากฝรั่ง" หรือพลาสติกนุ่มๆ ที่มีความยืดหยุ่น (เมื่อถูกรบกวน) และอุดมไปด้วยคาร์บอน ไนโตรเจน และออกซิเจน

 

ข้อมูลจากเบนนูสนับสนุนทฤษฎี Pseudo-panspermia อย่างรุนแรง ทฤษฎีนี้ระบุว่า แม้สิ่งมีชีวิตอาจไม่ได้เดินทางข้ามอวกาศมายังโลกโดยตรง แต่ "วัตถุดิบ" (Ingredients) ทั้งหมดที่จำเป็นในการสร้างชีวิต (น้ำ, น้ำตาล, กรดอะมิโน, ฟอสเฟต, โพลิเมอร์) ล้วนถูกส่งมายังโลกผ่านการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยในช่วงที่โลกกำลังก่อตัว  โลกในยุคแรกนั้นร้อนระอุและแห้งแล้ง

 

ยาน OSIRIS-REx ยังไม่จบภารกิจ ขณะนี้มันได้เปลี่ยนชื่อเป็น OSIRIS-APEX (OSIRIS-Apophis Explorer) และกำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่ดาวเคราะห์น้อย Apophis ซึ่งจะเข้าใกล้โลกในปี ค.ศ. 2029  ส่วนตัวอย่างจากเบนนูนั้น NASA ได้เก็บรักษาไว้ 75% โดยไม่เปิดใช้ เพื่อรอให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นถัดไปที่มีเครื่องมือทันสมัยกว่าในปัจจุบันเป็นผู้ไขความลับที่เหลือ

ที่มาของภาพ NASA

 

อ้างอิง
https://www.newscientist.com/article/2506650-asteroid-bennu-carries-all-the-ingredients-for-life-as-we-know-it/

 

Created by
เรียบเรียงโดย ศุภพิพัฒน โยธี กองสื่อสารวิทยาศาสตร์ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ