
สาขาฟิสิกส์และเคมี: รากฐานเทคโนโลยีแห่งอนาคต
รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ตกเป็นของ ศาสตราจารย์ จอห์น คลาร์ก John Clarke (อังกฤษ), ไมเคิล เอช. เดโวเร็ต Michel H. Devoret (ฝรั่งเศส) และ จอห์ เอ็ม มาร์ตินิส John M. Martinis (สหรัฐฯ) จากการค้นพบ "อุโมงค์ควอนตัมระดับมหภาค" (Macroscopic Quantum Tunneling) อันเป็นปรากฏการณ์ทางควันควอนตัมจากการทดลองต่อวงจรไฟฟ้าในตัวนำยิ่งยวดในระดับมหภาคได้สำเร็จ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าปรากฏการณ์ทางควอนตัมที่เคยเชื่อว่าเกิดขึ้นได้ในระดับอะตอมหรือพื้นที่ระบบขนาดเล็กมาก ๆ เท่านั้น แท้จริงแล้วสามารถเกิดขึ้นในระบบขนาดใหญ่ได้ การค้นพบนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ปลดล็อกการพัฒนาหลายด้าน รวมถึงการสร้างเซนเซอร์ที่มีความแม่นยำสูงในอนาคตอีกด้วย
ขณะที่รางวัลโนเบลสาขาเคมี มอบให้แก่ ศาสตราจารย์ ซูซูมุ คิตะกาวะ Susumu Kitagawa (ญี่ปุ่น), ริชาร์ด ร็อบสัน Richard Robson (อังกฤษ) และ โอมาร์ เอ็ม. ยากิ Omar M. Yaghi (จอร์แดน) จากการพัฒนา "โครงข่ายโลหะอินทรีย์" หรือ MOFs (Metal-Organic Frameworks) วัสดุอัจฉริยะที่มีรูพรุนสูงอย่างน่าทึ่ง วัสดุนี้ได้จุดประกายความหวังในการนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโลกได้ เช่น การดักจับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และการกำจัดสารพิษที่ปนเปื้อนในน้ำและแหล่งน้ำทั่วโลก
สาขาการแพทย์: ไขความลับกลไกการอยู่รอดของร่างกาย
รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ มอบให้แก่ ศาสตราจารย์ แมรี อี. บรังเคา Mary E. Brunkow (สหรัฐฯ), เฟรด แรมส์เดล Fred Ramsdell (สหรัฐฯ) และ ชิมง ซากากูชิ Shimon Sakaguchi (ญี่ปุ่น) จากการค้นพบกลไกสำคัญที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถจำแนกเซลล์ของตนเองและ "ไม่ทำร้ายร่างกายตนเอง" (Self-Tolerance) ผลงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจสาเหตุและพัฒนารูปแบบการรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Diseases) ที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก และอาจนำไปสู่การพัฒนาการรักษามะเร็งและการรักษาแบบใหม่ ๆ กับโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้ในอนาคต
สาขาวรรณกรรมและสันติภาพ: พลังแห่งการเล่าเรื่องและการยืนหยัด
รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ตกเป็นของ ลาสโล คราสนาโฮร์ไก (László Krasznahorkai) (ฮังการี) นักเขียนชาวฮังการี ผู้สร้างสรรค์งานวรรณศิลป์แนววันสิ้นโลกที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ คณะกรรมการยกย่องว่างานเขียนของเขาสะท้อนถึงความซับซ้อนของมนุษย์ และเป็นเครื่องพิสูจน์ยืนยันถึงพลังอำนาจของศิลปะแม้ในสถานการณ์แห่งความสิ้นหวัง
ส่วนรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี 2025 มอบให้แก่ มาเรีย คอรินา มาชาโด (Maria Corina Machado) นักการเมืองฝ่ายค้านหญิงจากเวเนซุเอลา จากการอุทิศตนอย่างไม่ย่อท้อในการต่อสู้เพื่อรักษาเส้นทางแห่งประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศเวเนซูเอลา การต่อสู้ของเธอถูกมองว่าเป็นการส่งเสริมและส่งผ่านกำลังใจแก่ผู้ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพอย่างสันติทั่วโลก
สาขาเศรษฐศาสตร์: นวัตกรรมคือหัวใจของการเติบโต
รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปีนี้มอบให้แก่ โจเอล โมคีร์ Joel Mokyr (เนเธอแลนด์), ฟิลิปป์ อากีญง Philippe Aghion (ฝรั่งเศส) และ ปีเตอร์ โฮวิตต์ Peter Howitt (แคนาดา) จากผลงานที่อธิบายว่า "การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม" คือปัจจัยพื้นฐานสำหรับการยกระดับมาตรฐานการครองชีพอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะทฤษฎี "การทำลายอย่างสร้างสรรค์" (Creative Destruction) ที่ชี้ให้เห็นว่า การที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ของเก่าอย่างต่อเนื่อง คือกลไกสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจโลกสามารถเติบโตได้อย่างไม่หยุดนิ่ง และผลงานสำคัญนี้ยังแสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนช่วยให้ผู้คนจำนวนมากหลุดพ้นจากความยากจนในช่วงสองศตวรรษที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองได้โดยอัตโนมัติ ภาวะเศรษฐกิจชะงักงันต่างหากที่เป็นบรรทัดฐานของประวัติศาสตร์มนุษยชาติส่วนใหญ่ งานของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าเราต้องตระหนักและต่อต้านภัยคุกคามต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รางวัลโนเบลปี 2025 เน้นย้ำอย่างชัดเจนถึงการให้ความสำคัญกับ "นวัตกรรมพื้นฐาน" ทั้งในระดับกลศาสตร์ควอนตัมและเคมีของวัสดุ ซึ่งเป็นสาขาที่นำไปสู่การแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติในปัจจุบันและเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดทิศทางเทคโนโลยีในอนาคต ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญต่อเรื่องประชาธิปไตย และจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ด้วย
สาขา | ผู้ได้รับรางวัล | สัญชาติ | ผลงาน |
ฟิสิกส์ | จอห์น คลาร์ก, มิเชล เอช. เดโวเรต์, จอห์น เอ็ม. มาร์ตินิส | - | ค้นพบปรากฏการณ์ควอนตัมในระดับมหภาคในวงจรไฟฟ้า |
เคมี | ซูซูมุ คิตะกาวะ, ริชาร์ด ร็อบสัน, โอมาร์ เอ็ม. ยากิ | - | สร้างกรอบโครงสร้างโลหะ-สารอินทรีย์ (MOFs) สำหรับเคมีประยุกต์ |
การแพทย์ | แมรี อี. บรังโคว์, เฟรด แรมส์เดลล์, ชิมอน ซาคากุจิ | - | ค้นพบกลไกการควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน (Regulatory T cells และ FOXP3) |
วรรณกรรม | ลาสโล กราสนาฮอร์ไก | ฮังการี | ผลงานประพันธ์อันทรงพลังที่ยืนยันถึงพลังของศิลปะท่ามกลางความน่าสะพรึงกลัว |
สันติภาพ | มาเรีย โครินา มาชาโด | เวเนซุเอลา | ความเป็นผู้นำที่กล้าหาญในขบวนการประชาธิปไตยในเวเนซุเอลา |
เศรษฐศาสตร์ | โจเอล โมเคียร์, ฟิลิปป์ อากียง, ปีเตอร์ ฮาววิตต์ | - | อธิบายนวัตกรรมในฐานะแรงผลักดันของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน |
ภาพประกอบ https://www.nobelprize.org/
ที่มาของแหล่งข้อมูล (Reference)
https://www.nobelprize.org/
ค้นคว้าเพิ่มเติม (แนะนำแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม)
https://www.nobelprize.org/