
“ไคร้หางนาค” ที่มาแห่งชื่อ...วังตะไคร้
หลายคนอาจเคยไปเที่ยว วังตะไคร้ ที่จังหวัดนครนายก เล่นน้ำ นั่งปิคนิคริมธาร แล้วเคยสงสัยไหมว่า “วังตะไคร้” มาจากอะไร? บางคนเดาว่าอาจเกี่ยวกับ ตะไคร้ที่เอาไปทำต้มยำ หรือ ไคร้ย้อยกับไคร้น้ำ ที่ขึ้นอยู่แถวนั้น แต่…ผิดหมด! ชื่อ “วังตะไคร้” จริง ๆ แล้วมีที่มาเก่าแก่ และแอบโรแมนติกกว่าที่คิด
จากข้อมูลของ ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร และเอกสารในหนังสือ วังตะไคร้ เล่าว่า เดิมทีชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่า “วังตะไคร้” เพราะมีลำห้วยน้ำใสไหลผ่านที่เต็มไปด้วยพืชชนิดหนึ่งชื่อ “ตะไคร้หางนาค” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rotula aquatica ขึ้นแน่นริมฝั่ง เมื่อ อพวช. ลงสำรวจพรรณพืช ก็พบว่า ไคร้หางนาค ยังมีอยู่จริงที่นั่น และมันก็คือ "ตะไคร้น้ำ" ตามความเข้าใจของชาวบ้านในสมัยก่อน—not the same as ไคร้น้ำ (Homonoiа riparia) ที่หลายคนเข้าใจผิด
ไคร้หางนาคเป็นไม้พุ่มริมลำธารสูงได้ถึง 2 เมตร ใบเล็กเรียงเวียน ดอกสีชมพูสดใส ผลกลมสุกสีแดง พบได้ทั่วไปในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น ยกเว้นภาคตะวันออกและอีสาน พืชชนิดนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเก็บความทรงจำทางวัฒนธรรมผ่าน “ชื่อสถานที่” ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวของไทย…ใครจะคิดว่าไม้พุ่มเล็ก ๆ ริมลำธาร จะกลายมาเป็นชื่อที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ!