จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ณ อาคารหวั่งฟกคอร์ต (Wang Fuk Court) ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นับเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมอัคคีภัยที่ร้ายแรงที่สุดของฮ่องกงนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ทางการต้องประกาศยกระดับการเตือนภัยสู่ระดับ 5 (ระดับสูงสุด) ท่ามกลางรายงานผู้เสียชีวิตเบื้องต้นที่พุ่งสูงเกือบ 150 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก เหตุการณ์นี้ได้จุดชนวนให้เกิดการตั้งคำถามถึงมาตรฐานความปลอดภัยในอาคารสูงระลอกใหม่ โดยสื่อชั้นนำทั่วโลกต่างวิเคราะห์ตรงกันว่า ความรุนแรงของเพลิงไม่ได้เกิดจาก “ต้นเพลิง” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลมาจาก “ความบกพร่องทางโครงสร้างและมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารที่ไม่รัดกุมเพียงพอ”

ปัจจัยที่ทวีความรุนแรงของเหตุเพลิงไหม้
- วัสดุก่อสร้างกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี: การใช้นั่งร้านไม้ไผ่คลุมด้วยผ้าใบและตาข่ายกันฝุ่น ตามธรรมเนียมการก่อสร้างของฮ่องกงและจีน ประกอบกับโฟมอุดหน้าต่างที่ติดไฟง่าย กลายเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟลุกลามห่อหุ้มอาคารอย่างรวดเร็ว
- ระบบเตือนภัยล้มเหลว: ความบกพร่องของสัญญาณเตือนภัยทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ได้รับแจ้งเหตุทันท่วงที ส่งผลให้เสียโอกาสทองในการอพยพ ซึ่งถือเป็นจุดตายสำคัญของเหตุการณ์นี้
- โครงสร้างอาคารล้าสมัย: อาคารที่สร้างตั้งแต่ยุค 1980 ขาดระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานปัจจุบัน เช่น ระบบสปริงเกอร์อัตโนมัติ ระบบตรวจจับควัน และผนังกันไฟ ทำให้กลายเป็นจุดเสี่ยงสูงในเขตเมืองหนาแน่น
- การควบคุมงานก่อสร้างหละหลวม: มีรายงานการใช้วัสดุซ่อมแซมที่ไม่ผ่านเกณฑ์การทนไฟ และขาดการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องในขณะที่ยังมีผู้อยู่อาศัย
มาตรฐานสากลด้านการป้องกันอัคคีภัยสำหรับอาคารสูง
องค์กรหลักที่มีบทบาทกำหนดมาตรฐานด้านอัคคีภัยระดับโลกอย่าง สมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ (National Fire Protection Association หรือ NFPA) สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีภารกิจลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัย ปัจจุบันมีเครือข่ายสมาชิกกว่า 81,100 ราย และมาตรฐานของ NFPA ได้รับการยอมรับนำไปบัญญัติเป็นกฎหมายหรือข้อบังคับในหลายประเทศ สำหรับมาตรฐานสำคัญที่อาคารสูงควรปฏิบัติตาม ได้แก่
- การอพยพหนีไฟ
NFPA 101 (Life Safety Code): มาตรฐานหัวใจสำคัญ มุ่งเน้นการออกแบบอาคารเพื่อปกป้องชีวิตและการอพยพหนีภัย
- ระบบเตือนภัยและตรวจจับ
NFPA 72 (National Fire Alarm and Signaling Code): มาตรฐานการติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาสัญญาณเตือนภัย
- ระบบดับเพลิง
NFPA 13 (Standard for the Installation of Sprinkler Systems): มาตรฐานการติดตั้งระบบสปริงเกอร์สำหรับอาคารทุกประเภท
- วัสดุก่อสร้างทนไฟ
NFPA 701 & NFPA 285: มาตรฐานทดสอบการลามไฟของวัสดุสิ่งทอ/ฟิล์ม (เช่น ผ้าใบ ตาข่าย) และการลามไฟของผนังภายนอกอาคาร (Cladding)
ในยุคที่เมืองมีความหนาแน่นและอาคารสูงกลายเป็นที่อยู่อาศัยหลัก มาตรฐานด้านอัคคีภัยจึงจำเป็นต้องมีความเข้มงวด บังคับใช้อย่างจริงจัง ตรวจสอบได้ และมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ ดังเช่นโมเดลของประเทศชั้นนำอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ที่มีข้อบังคับให้อาคารเก่าอายุ 20–30 ปี ต้องปรับปรุงติดตั้งระบบสปริงเกอร์ ระบบตรวจจับควัน และระบบระบายอากาศให้เป็นปัจจุบัน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่มาตรฐานทางวิศวกรรมอาคาร แต่หมายถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ดังนั้น การให้ความรู้และฝึกซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
อ้างอิง
1. ABC News. (2025, November 28). Behind Hong Kong’s skyline, thousands of old towers pose fire risks. Retrieved November 29, 2025, from https://www.abc.net.au/news/2025-11-28/behind-hong-kong-s-skyline-thous…
2. National Fire Protection Association. (n.d.). High-rise buildings (overview). Retrieved November 29, 2025, from https://www.nfpa.org/
3. National Fire Protection Association. (2022). NFPA 13: Standard for the installation of sprinkler systems. NFPA.
4. National Fire Protection Association. (2022). NFPA 72: National fire alarm and signaling code. NFPA.
5. The Guardian. (2025, November 28). Hong Kong apartment fire: Deadly blaze raises concerns over fire safety compliance. Retrieved November 29, 2025, from https://www.theguardian.com/news/2025/nov/28/hong-kong-apartment-fire-r…
ขอบคุณภาพหน้าปกจาก www.bbc.com