
ชุมชนเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในปี พ.ศ. 2530 เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาและหิน น้ำหลากจากแม่น้ำโขงท่วมสูงประมาณ 10 เมตรในหน้าฝน ทำให้ดินไม่สามารถดูดซับน้ำได้ ในปี พ.ศ. 2538 เกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ต้องซื้อน้ำจากที่อื่นมาใช้ แม้หน่วยงานราชการช่วยขุดบ่อบาดาลหลายครั้งแต่ไม่พบน้ำใต้ดิน มีเพียงบ่อน้ำตื้นที่ไม่เพียงพอ ชุมชนต้องแย่งน้ำกันใช้ เด็กขาดเรียนเพราะต้องรีบไปตักน้ำ
ในปี พ.ศ. 2548 ชุมชนเริ่มศึกษาวิจัยร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์ธรรมชาติเพื่อชีวิต เพื่อค้นหารูปแบบการใช้น้ำที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจัดประชาคมหมู่บ้าน ค้นหานักวิจัยชุมชน อบรมทีมวิจัย และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์ ศักยภาพแหล่งน้ำ ปริมาณน้ำในแต่ละฤดูกาล และการบริหารจัดการน้ำในอดีต
เมื่อชุมชนรับรู้ถึงสภาพการใช้น้ำและข้อมูลแหล่งน้ำ จึงเริ่มดำเนินงานจัดการทรัพยากรน้ำดังนี้:
-
การทำฝายกักเก็บน้ำ: ชุมชนร่วมกันทำฝายคอนกรีตบนหิน โดยออกเงินและแรงงานกันเอง เพื่อทดสอบว่าน้ำจากวังอีแร้งมีพอใช้ภายในชุมชน
-
การกระจายน้ำ: ชุมชนนำน้ำจากบุ่งพระละคอนมาใช้เป็นระบบประปาหมู่บ้าน แต่เนื่องจากพื้นที่ลาดชัน ทำให้ต้องใช้แรงเครื่องสูบน้ำมาก เครื่องสูบน้ำเสียบ่อยครั้ง ชุมชนจึงคิดค้นนวัตกรรม "แอร์แว" เพื่อช่วยสูบน้ำจากฝายวังอีแร้งและบุ่งพระละคอน ทำให้ประหยัดพลังงานและไม่ทำให้เครื่องสูบน้ำเสีย
นอกจากนี้ ชุมชนยังจัดทำประปาภูเขาเพื่อให้การใช้น้ำอย่างทั่วถึงสำหรับครัวเรือนที่อยู่บริเวณต้นน้ำ และมีการทำประชาคมหมู่บ้านร่วมกันทุกสัปดาห์เพื่อร่วมหาแนวทางและปรับแก้ไขการดำเนินงานร่วมกัน
สถานที่ตั้ง
ต.สำโรง อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธาน
ช่องทางการติดต่อ
นายค าพัน เชิดไชย (ประธานกลุ่ม)
โทร. 089-428-6200
นายหลุย ธรรมเที่ยง (ผู้ประสานงาน)
โทร. 096-257-7251
ชุมชนบ้านผาชัน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี - มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์